ขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืน ทำยังไงต่อไป

เมื่อท่านทำการผ่อนรถยนต์แล้วสุดท้าย ท่านผิดสัญญาเช่าซื้อ ถ้าไม่คืนรถ จะถูก ขึ้นศาลเรื่องรถไม่มีรถคืน ซึ่งว่ากันด้วยสัญญาเช่าซื้อ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะ 5 เช่าซื้อ

มาตรา 572 อันว่าเช่าซื้อนั้น คือสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้นหรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว

วรรค2 สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ

ต่อมาเมื่อท่านผิดนัด ค่างวดรถ หรือไม่ผ่อนค่างวดรถขาดส่งค่างวด 3 คราวติดกัน เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ก็คือบริษัทไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ และอย่าลืมว่าเงินที่เราผ่อนไปแล้ว ให้ริปเป็นของเจ้าของทรัพย์สิน ก็คือบริษัทไฟแนนซ์นั่นเอง

เมื่อบริษัทไฟแนนซ์ทำการฟ้องทางแพ่งในข้อหาผิดสัญญาเช่าซื้อกับท่าน และท่านไม่มีรถคืน อย่าลืมว่ารถนี้มันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์ เขามีสิทธิ์ฟ้องในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีอาญาอีกด้วย ซึ่งคดียักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี อย่าโดนฟ้องในเรื่องขึ้นศาลเรื่องรถและไม่มีรถคืน ก็เลย

ว่ากันตามตรง อย่าให้เหตุการณ์มาดำเนินการถึงขั้นขึ้นศาลเรื่องรถ แล้วไม่มีรถคืนให้กับบริษัทไฟแนนซ์ เนื่องจากมันจะมีผลพวงตามมาอีกมากมาย

ทางแก้ไขที่แนะนำ เรื่องรถ ไม่มีรถคืน

1.รถยนต์ถ้ายังผ่อนไหวก็ผ่อนไป
2.รู้ตัวว่าผ่อนไม่ไหวให้ขายในตลาดรถ หรือในอินเตอร์เน็ตหรืเต้นท์รถก็ได้ (รู้ว่าท่านจำเป็นต้องใช้รถ แต่บางทีก็ไม่มีทางเลือก)
3.หากเราทำผิดสัญญาจนไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญา ผลก็จะเป็นตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 574 บริษัทไฟแนนซ์สามารถริบเงินค่างวดที่เราผ่อนไปแล้วได้ทั้งหมด
4.ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ติดตามเอาคืนรถยนต์นั้นด้วย
5.การไม่มีรถคืนไฟแนนซ์สามารถเรียกให้เราใช้ราคารถยนต์ได้
6.ค่าขาดประโยชน์ ตอนที่เราไม่ได้ผ่อนรถยนต์แล้วและไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญา เราต้องจ่ายค่ารถให้เขาอีก

เห็นว่าหากเราถูกฟ้องคดีในเรื่องขึ้นศาลเรื่องรถแล้วไม่มีรถคืน เราจะเสียหายหลายอย่างถูกเรียกร้องเก็บนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด

ปรึกษากฎหมายฟรี  ปรึกษากฎหมาย   >> nitilaw.com

แนะนำเรื่องรถยนต์ นิดนึง

1.ถ้าดูรถเป็น ไปหาซื้อรถมือสอง จะได้รถยนต์ที่ราคาย่อมเยาลงมากว่ามากๆ
2.ถ้าเป็นรถมือสองพยายามดาวน์ให้เยอะๆเข้าไว้ จะได้ผ่อนน้อยๆ อย่างน้อยก็ลดความเสี่ยงของท่าน
3.บางกรณีไม่จำเป็นต้องใช้รถแบรนด์ตลาดเสมอไป รถแบรนด์รองราคาไม่แพงมีเยอะแยะ คุณภาพไม่ต่างกันมาก

 

ขึ้นศาลเรื่องรถ ไม่มีรถคืน เป็นเรื่องหนักหนา เพราะเราจะโดนหลายอย่าง ดังนั้นอย่าให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ถ้าทำได้ เมื่อถูกฟ้องคดี ค่าใช้จ่ายจะตามมาเยอะ

 

และการคิดว่าที่เราไปขึ้นรถแล้ว เรื่องจะจบบางครั้งมันไม่จบอาจจะมีส่วนต่างจากการที่นำรถไปขายและ ยอดเงินที่ได้ยังไม่ ครอบคลุมยอด ไฟแนนซ์ที่ค้างอยู่

 

อย่างไรก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป ระหว่างการคืนรถก่อนการผิดสัญญาเช่าซื้อ กับการคืนรถหลังจากเราผิดสัญญาเช่าซื้อและไฟแนนซ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว